โครงการหอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข
๑. หลักการและเหตุผล
ในวาระของครบรอบ ๑๐๐ ปี การสาธารณสุขไทย ที่จะมาถึงในปี พ.ศ. ๒๕๖๑ นับเป็นโอกาสดีในการผลักดันให้เกิดความตระหนักในมิติทางประวัติศาสตร์ของระบบสุขภาพไทย สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพจึงได้จัดทำโครงการจัดตั้งหอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติขึ้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวม จัดเก็บเอกสารที่มีคุณค่าอันเป็นแหล่งความรู้และสำนึกทางประวัติศาสตร์สุขภาพไทย และเป็นแหล่งที่ให้การสนับสนุนการศึกษา ค้นคว้าและวิจัย เพื่อสร้างความรู้ทางประวัติศาสตร์และมิติทางสังคมของระบบสุขภาพ การแพทย์และการสาธารณสุข ตลอดจนเผยแพร่ให้ความรู้ เพื่อให้สังคมการแพทย์การสาธารณสุข สถาบันการศึกษาและการวิจัย ตลอดจนสาธารณชนได้ศึกษาเรียนรู้และเกิดความเข้าใจในรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ของระบบสุขภาพไทย
๑) เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมและทำนุบำรุงรักษา เอกสาร สื่อ ตลอดจนหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเกี่ยวกับพัฒนาการของระบบสุขภาพไทยมิให้เสื่อมสลายหรือสูญหายไป
๒) เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลทางวิชาการในการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของระบบสุขภาพไทย ตลอดจนพัฒนาการด้านสังคมและการเมืองที่เกี่ยวข้อง เพื่อปลูกฝังและสร้างความรู้ ความเข้าใจในมิติทางสังคม ประวัติศาสตร์และสุขภาพ
๓) เพื่อดำเนินการวิจัยและสนับสนุนการศึกษาค้นคว้า เพื่อการเรียนรู้จากอดีต ตลอดจนเพื่อสร้างความร่วมมือกับสถาบันต่างๆ ในการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ความเข้าใจในมิติทางสังคมของสุขภาพและการแพทย์
๔) เพื่อสร้างสรรค์และปลูกฝังสำนึกและความภาคภูมิใจต่อความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ อันจะเป็นการบ่มเพาะความรักและความภูมิใจในการทำงานเพื่อสร้างระบบสุขภาพไทยให้เข้มแข็ง
๓. แผนการดำเนินงาน
๒) รวบรวม เอกสาร รูปภาพ วัสดุ และสื่อสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวกับความเป็นมาในประวัติศาสตร์ ระบบสุขภาพไทย
๓) คัดเลือก จัดระบบเอกสาร รูปภาพต่างๆ ที่ง่ายต่อการค้นคว้า
๔) จัดการสัมมนาผู้รู้เห็น (Witness seminar) ทางประวัติศาสตร์ระบบสุขภาพไทยเพื่อนำข้อมูลและสื่อที่ได้มาจัดเก็บไว้ในหอจดหมายเหตุและใช้ประโยชน์ต่อไป
๕) จัดพิมพ์และเผยแพร่ผลงานวิชาการที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาของระบบสุขภาพไทย
๖) จัดเตรียมพิพิธภัณฑ์ที่แสดงพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ระบบสุขภาพไทย
๗) จัดเตรียมหอจดหมายเหตุทั้งที่เป็นงานจดหมายเหตุหลัก และจดหมายเหตุเอกสารของบุคคลที่มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการระบบสุขภาพไทย โดยจัดระบบเอกสารรวมสามหมวดได้แก่ · เอกสารสำคัญและมีคุณค่าในด้านการพัฒนาระบบสุขภาพไทย · เอกสารส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องและมีคุณูปการต่อระบบสุขภาพไทย · เอกสารและสื่อทุกชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการปฏิรูประบบสุขภาพ
๘) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกิดการใช้ประโยชน์แก่บุคคลทั่วไป
๙) มีเว็บไซต์เพื่อการบริการและประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ผู้สนใจสามารถติดต่อเข้าถึงได้ทางอินเตอร์เน็ต
๑๐) ดำเนินการออกแบบ ตกแต่ง จัดภูมิสถาปัตย์ให้เหมาะกับการใช้งาน และจัดแบ่งเนื้อที่ใช้สอยห้องเก็บเอกสาร ห้องรวบรวมและคัดแยก ห้องบริการค้นคว้า และห้องทำงานของบุคลากร การจัดแสดงนิทรรศการจดหมายเหตุและพิพิธภัณฑ์
๑๑) ดำเนินการขนย้ายเอกสาร วัตถุและสิ่งของต่างๆ ที่เก็บรวบรวมไว้ ไปเริ่มการจัดเก็บ จัดแสดงและสร้างระบบการให้บริการค้นคว้าเอกสารในห้องแสดงถาวร
๑๒) การจัดสร้างชุดนิทรรศการถาวรในหอจดหมายเหตุสาธารณสุขแห่งชาติ รวมทั้งจัดสร้างนิทรรศการแบบเคลื่อนที่ในประเด็นสำคัญสำหรับจัดแสดงในวาระสำคัญต่างๆ
๑๓) จัดระบบการเข้าใช้บริการค้นคว้าเอกสารและการเข้าชมนิทรรศการที่จัดแสดง รวมทั้งเริ่มจัดกิจกรรมเพื่อให้สาธารณชนได้รู้จักและเข้ามาเรียนรู้อย่างกว้างขวาง
๕. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
๑) ทำให้เกิดสำนึกและบรรยากาศของการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์สุขภาพ การแพทย์ และการสาธารณสุขไทย
๒) ทำให้มีแหล่งรวบรวมข้อมูลเพื่อการค้นคว้า แสวงหาคุณค่าทางประวัติศาสตร์และการเรียนรู้จากอดีตอันจะก่อประโยชน์ต่อสุขภาพ การแพทย์ และการสาธารณสุขของประเทศไทยที่ยั่งยืน
๓) ทำให้เกิดการศึกษาค้นคว้า และพัฒนาองค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์สุขภาพ การแพทย์ และการสาธารณสุขไทย
๔) ทำให้ได้หลักฐานเพิ่มจากเอกสารโดยเป็นแหล่งเก็บข้อมูลประวัติศาสตร์บอกเล่าของบุคคลผู้อยู่ร่วมเหตุการณ์ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์สุขภาพ การแพทย์ และการสาธารณสุขไทยเพื่อประโยชน์ในการค้นคว้าวิจัยในอนาคต
๕) ทำให้เกิดการเรียนรู้กระบวนการจัดสัมมนาผู้รู้เห็นทางประวัติศาสตร์ที่สามารถนำไปใช้ในสังคมไทยได้